สอนเด็กเก่งให้โคตรเก่ง

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ (นานมาแล้ว) ในการสอนเด็กออกแนวอัจฉริยะ หลังจากที่เคยเล่าประสบการณ์ในการสอนเด็กที่พื้นฐานไม่ดี ให้เข้าใจและมีทักษะในเรื่องของคณิตศาสตร์และทำให้น้องเอาไปต่อยอดได้

ผมมีโอกาสได้สอนน้อง ประถม2 คนหนึ่งซึ่งเรียกว่าเก่งมากกกก และเมื่อดูพื้นฐานแล้วก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเลย เพราะว่าทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของน้องนี้เป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมปลายในโรงเรียนแห่งหนึ่งทั้งคู่ โดยคุณพ่อสอนวิชาฟิสิกส์ และคุณแม่สอนวิชาเคมี อือมมม ทำปฏิกริยากันได้ลูกออกมาเป็น เคมีฟิสิกส์ !!! น้องเลยเป็นคนหัวดีอยู่แล้ว แต่ส่วนที่สำคัญกว่าคือคุณพ่อและคุณแม่ทั้งคู่เอาใจใส่ลูกมาก โดยเฉพาะเรื่องการเรียน ทั้งคุณพ่อและคุณแม่หาโจทย์คณิตศาสตร์แบบ โหดๆ ยากๆ ที่เกินจากระดับประถม 2 มาให้น้องทำมากมาย น้องอาจจะทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และที่ทำไม่ได้ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเลย อย่างโจทย์ ข้อสอบ สสวท. หรือ เพชรยอดมงกุฏ ระดับช่วงชั้นที่ 1 หรือในระดับประถม 3 อย่าว่าแต่เด็ก ป.3 เก่งๆเลย บางข้อเด็ก ป.4 ป.5 ก็ยังทำไม่ได้ แล้วนี่น้องเพิ่ง ป.2 เอง

คุณพ่อคงหาโจทย์และสอนน้องจนหมดแล้ว จึงพามาฝากโดยตั้งโจทย์ยากๆให้ครูว่า สอนน้องให้เก่งขึ้นอีกเพราะคุณพ่อตั้งใจว่าปีหน้าจะต้องได้เหรียญจากการสอบ สสวท  หรือเพชรยอดมงกุฏ และหลังจากการได้ฟังจากคุณพ่อและทำการทดสอบน้องแล้วก็รู้เลยว่าน้องเก่งจริง

มาดูโจทย์บางส่วนที่ใช้ทดสอบน้องประถม 2 กันครับ

1. มะละกอ 2ผล มะม่วง 1ผลราคารวมกัน 30บาท ส้ม 1ผล มะละกอ 3ผล ราคารวมกัน 45บาท มะละกอ 4 ผลราคา 48บาท มะม่วง 1ผล และส้ม 1ผล ราคาเท่าไร
2. ชุดนักเรียนชาย 1ชุดราคา 500บาทแต่ถ้าซื้อ3ชุดขึ้นไปจะลดให้ชุดละ40บาท แต่ถ้าซื้อแยกจะคิดเสื้อตัวละ250บาทกางเกงตัวละ 300 บาท ถ้าซื้อชุดนักเรียน 4ชุดกับกางเกงอีก2ตัว จะเป็นเงินรวมเท่าไร

โจทย์ 2 ข้อนี้น้องนั้่งกระพริบตา 2-3 ทีแล้วก็ลงมือทำ สักพักก็ตอบได้แบบสบายๆ

ผมรู้แล้วว่าวิธีการคิดวิเคราะห์ของน้องเรียกว่ายอดเยี่ยม สามารถมองภาพรวมโจทย์ออกและมีประสบการณ์ในการทำโจทย์มากพอ ที่จะทำโจทย์ง่ายๆแบบนี้ได้สบายๆ อย่างนั้นเอาใหม่ ผมก็เลยเอาโจทย์ที่ต้องใช้ทักษะมากขึ้นอีกมาให้น้องทำ ประมาณนี้ครับ

1. สองเท่าของจำนวนหนึ่งมากกว่า 1/3 ของจำนวนนั้นอยู่ 70 ให้หาจำนวนนั้น
2. 3/4ของราคาของรถยนต์ มากกว่า 3 เท่าของราคามอเตอร์ไซค์อยู่ 80,000 บาท ถ้าราคามอเตอร์ไซค์เท่ากับ 1/5 ของราคารถยนต์ ถามว่ารถยนต์ราคาเท่าไร
3. ครึ่งหนึ่งของอายุของพ่อ เป็นสามเท่าของอายุลูก และอายุของพ่อกับลูกต่างกันอยู่ 25 ปี ถามว่าลูกอายุเท่าไร

คราวนี้น้อง ต้องคิดหนักและก็ตั้งใจทำอยู่นาน และก็ตอบผิดใน 2 ข้อหลัง โดยตอบถูกในข้อแรก ซึ่งจริงๆแล้วโจทย์แบบนี้มันสำหรับเด็ก ป.5 - 6 เลยนะนั่น แต่น้องก็พอจะทำได้

ที่ผมเอาโจทย์แนวๆนี้ให้น้องทำเพราะอยากรู้เรื่องการคิดวิเคราะห์ การแก้โจทย์ปัญหาแบบตัวเลขไม่ยาก และก็แบบที่เด็กมีทักษะคณิตศาสตร์ดีๆ จะสามารถคิดได้และก็รู้ว่าน้องมีทักษะดีมาก

วิธีการสอนของผมก็คือ เอาโจทย์ในรูปแบบต่างๆมาสอนให้น้องรู้วิธีคิด เช่นโจทย์เรื่องของแบบรูปความสัมพันธ์ โจทย์ปัญหากึ่งๆเรขาคณิตเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ โจทย์เรื่องเวลา และอื่นๆ โดยให้น้องรู้ยุทธวิธีการทำโจทย์แบบต่างๆ และหาโจทย์ยากๆมาให้น้องทำจนน้องรู้สึกเบื่อ 

สุดท้ายของการสอนเด็กเก่งให้โคตรเก่ง คือ

การให้น้องคิดโจทย์มาให้ครูทำบ้าง

ซึ่งวิธีนี้สำหรับน้องคนนั้ได้ผลมากๆ ทำให้น้องรู้สึกสนุกที่จะได้คิดโจทย์ที่ซับซ้อนมาให้ครูทำ ถ้าครูทำเกินเวลาที่กำหนด นักเรียนชนะ นอกจะทำให้น้องสนุกแล้ว การให้น้องคิดโจทย์ทำให้น้องสามารถคิดย้อนกลับได้ ยิ่งน้องคิดโจทย์ได้ซับซ้อนเท่าไหร่นั่นคือน้องสามารถทำโจทย์แบบนั้นได้สบายๆ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณครูที่ต้องสอนเด็กเก่งๆลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะครับ