วางแผนการเรียนให้ลูกสำคัญมั๊ย ?

คำถามหนึ่งที่ถูกถามมามาก คือ จำเป็นหรือไม่ ? ที่ต้องวางแผนการเรียนให้ลูก และจะเริ่มวางแผนเมื่อไหร่ดี ?

ผมว่าเรื่องแบบนี้อยู่ที่ความคิดของแต่ละครอบครัวนะครับ บางครอบครัวก็ซีเรียสกับเรื่องนี้มาก บางครอบครัวก็บอกว่าไม่อยากกดดันลูกมากเกินไป ปล่อยให้เค้าคิดเองดีกว่า

แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนดีกว่า หรือเหมาะสมกับครอบครัวตัวเองที่สุด ถ้าจะให้คำแนะนำก็ต้องพึ่งหลักของพระพุทธเจ้า คือ เดินสายกลาง แบบไม่ได้คาดหวังสูงเกินไป ไม่กดดันลูกมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เป็นเรื่องของลูกเสียทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะไปกดดันเค้าจนกลายเป็นผลเสีย 

ก่อนอื่นลองตอบคำถามเหล่านี้ดูก่อนนะครับ

• วันหนึ่งลูกก็จะต้องโตเป็นผู้ใหญ่และต้องดูแลครอบครัวใช่มั๊ย
• พ่อ แม่ ไม่สามารถอยู่ดูแลลูกๆได้ตลอดถูกต้องหรือหรือป่าว
• อนาคตที่ดีของลูกคือการทำงานที่ดีและได้ทำงานที่ชอบจริงมั๊ย
• การจะได้ทำงานแบบนั้นทางเลือกหนึ่งคือต้องเข้าศึกษาคณะอะไรและมหาวิทยาลัยใด
• มีปัจจัยอะไรบ้างที่จะพาลูกไปถึงจุดนั้นบ้าง
• ถ้าปล่อยให้ลูกคิดเองเค้าจะคิดได้หรือไม่
• มีอะไรบ้างที่จะทำให้ลูกคิดได้เองหรือสร้างแรงบันดาลใจได้บ้าง
• และถ้าไม่ได้อย่างที่หวังและตั้งใจจะมีทางเลือกอื่นๆที่ง่ายกว่าหรือไม่ อะไรบ้าง
• จะต้องทำอะไรบ้างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

ครับลองตอบคำถามเหล่านี้ดู แล้วลองคิดและตัดสินใจดูครับว่าจะทำอย่างไรดี

• บางครอบครัวอาจมีธุรกิจจรอให้ลูกมาสืบทอด
• บางครอบครัวมุ่งหวังให้ลูกรับราชการเหมือนพ่อหรือแม่
• บางครอบครัวหวังให้ลูกมีหน้าที่การงานที่ดีเป็นที่เชิดหน้าชูตา
• บางครอบครัวหวังแค่ให้ลูกเรียนจบและมีงานทำหาเลี้ยงตัวเองก็พอ
• บางครอบครัวอาจไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร

การวางแผนการเรียน อาจไม่จำเป็นต้องยุ่งยากมากมายอะไรก็ได้ครับ และไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินทองอะไรเลยก็ได้ ส่วนที่สำคัญที่สุดและอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแผนก็คือ

การสร้างแรงบันดาลใจ

ถ้าเด็กมีแรงบันดาลใจที่แน่วแน่แล้ว อย่างอื่นๆจะง่ายมาก ลูกจะหาหนทางไปให้ถึงจุดหมายเอง พ่อแม่แค่คอยให้คำแนะนำนิดหน่อยและคอยให้กำลังใจมากๆก็พอ และถ้าจะให้ดีกว่านั้น พ่อแม่ควรเป็นที่ปรึกษาเรื่องการวางแผนการเรียนให้ลูกได้ด้วย เช่น 

• จะต้องเรียนสายไหน
• จะต้องสอบอะไรบ้าง
• ควรจะได้คะแนนจากการสอบเท่าไหร่บ้าง
• แนวข้อสอบแต่ละวิชาเป็นอย่างไร
• การเลือกคณะ เลือกมหาวิทยาลัย
• แผนสำรอง

จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้มีการแนะแนวอยู่ในโรงเรียน และสถาบันกวดวิชาหลายแห่งก็มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้เรื่องเหล่านี้บ้างก็ดีครับ

การที่เรารู้อยู่แล้วว่าในอนาคตจะต้องเจออะไรบ้าง และมีการเตรียมการเพื่อที่จะรับมือเอาไว้ก่อน ก็จะทำให้เรื่องยากๆ ง่ายขึ้นมาบ้าง หรือรู้ทิศทางอยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร อย่างไรบ้างก็ทำให้มีทิศทางที่ชัดเจน นี่คือคำตอบที่ว่า

การวางแผนการเรียนให้ลูกนั้นเป็นเรื่องจำเป็น

ส่วนจะเริ่มเมื่อไหร่ดี 

คำตอบก็คือ พ่อแม่ควรเริ่มตั้งแต่ลูกอยู่ชั้นประถมแล้ว แต่ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป คอยเสริมเรื่องทักษะการคิดและทักษะวิชาต่างๆบ้าง และมาเริ่มกันแบบจริงจังเมื่อลูกเกิดแรงบันดาลใจ หรือมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วที่สำคัญอีกอย่างคือ เตรียมแผนสำรองเอาไว้ด้วยครับ เพราะว่าเป้าหมายของเราก็เป็นเป้าหมายของเด็กๆอีกหลายคนเหมือนกัน