ม.ปลาย "อ่อนภาษาอังกฤษ" ฟังไม่รู้เรื่อง แกรมม่าไม่แม่น? นี่คือทางออกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องอ่าน!
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงกังวลใจเมื่อเห็นลูกมัธยมปลายท้อแท้กับวิชาภาษาอังกฤษ ใช่ไหมคะ? ไม่ว่าจะเป็นปัญหา "ฟังไม่เข้าใจ" เวลาครูพูดภาษาอังกฤษ ดูหนังก็ไม่รู้เรื่อง หรือ "แกรมม่าผิดตลอด" เขียนเรียงความไม่ได้ คะแนนตกต่ำลงเรื่อย ๆ ในฐานะติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ดิฉันเข้าใจดีว่าความท้าทายเหล่านี้หนักหนาสาหัสเพียงใด แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ! วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อช่วยให้ลูกของคุณกลับมามั่นใจและเก่งภาษาอังกฤษได้อีกครั้ง
ทำไมลูกของคุณถึงมีปัญหาภาษาอังกฤษ?
ก่อนที่เราจะไปหาวิธีแก้ เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมลูกของคุณถึงประสบปัญหาเหล่านี้:
พื้นฐานไม่แน่น: ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องอาศัยการสะสมความรู้ หากขาดความเข้าใจในหลักไวยากรณ์พื้นฐาน หรือมีคำศัพท์น้อย ก็ยากที่จะต่อยอด
ขาดการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง: การเรียนแค่ในห้องเรียนอาจไม่เพียงพอ ภาษาอังกฤษต้องใช้การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน
ความกลัวและขาดความมั่นใจ: การกลัวที่จะผิดพลาด หรือเคยถูกตำหนิ อาจทำให้ลูกไม่กล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้พัฒนาการช้าลง
วิธีเรียนที่ไม่เหมาะสม: บางครั้งการเรียนรู้ในรูปแบบเดิม ๆ อาจไม่ตรงกับสไตล์การเรียนรู้ของลูกแต่ละคน
กู้คืนความมั่นใจ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษลูกม.ปลาย ด้วยวิธีเหล่านี้!
เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือแก้ไขค่ะ นี่คือกลยุทธ์ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที:
1. เริ่มต้นที่ "การฟัง" - พัฒนาทักษะการจับใจความ (Listening Comprehension)
ทักษะการฟังเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ภาษา เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการซึมซับสำเนียง รูปประโยค และคำศัพท์ใหม่ ๆ
เปิดโลกการฟังให้ลูก: ไม่ใช่แค่เพลงภาษาอังกฤษ แต่รวมถึง Podcast สำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ (มีหลายระดับ), คลิป YouTube สั้นๆ ที่ลูกสนใจ (เช่น DIY, รีวิวเกม) หรือสารคดีสั้นๆ ที่มี Subtitle ภาษาอังกฤษ
ฟังซ้ำๆ: การฟังซ้ำๆ ช่วยให้สมองคุ้นเคยกับเสียงและจังหวะของภาษา
ใช้ Subtitle ให้เป็นประโยชน์: ในช่วงแรก อาจให้ลูกดูหนังหรือซีรีส์พร้อม Subtitle ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เชื่อมโยงเสียงกับตัวอักษรได้ เมื่อเริ่มคุ้นเคย ให้ลองปิด Subtitle หรือใช้ Subtitle ภาษาอังกฤษควบคู่กับ "Shadowing" (การพูดตามสิ่งที่ได้ยินทันที)
กำหนดเป้าหมายการฟัง: แทนที่จะฟังไปเรื่อยๆ ลองให้ลูกจับใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง แล้วมาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเป็นภาษาไทยก็ได้ เพื่อฝึกการสรุปและตีความ
2. แกรมม่าไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ - ปรับทัศนคติและสร้างความเข้าใจ (Grammar Mastery)
ปัญหาแกรมม่าอ่อน มักเกิดจากความไม่เข้าใจหลักการพื้นฐาน ทำให้จำได้แต่เอาไปใช้ไม่ได้
เปลี่ยนมุมมองแกรมม่า: แกรมม่าไม่ใช่แค่กฎที่ต้องจำ แต่คือ "แผนที่" ที่ช่วยให้เราสื่อสารได้ชัดเจนขึ้น เปรียบเทียบเหมือนกฎจราจรที่ทำให้การเดินทางราบรื่น
เรียนรู้จากบริบทจริง: แทนที่จะเรียนจากแบบฝึกหัดแกรมม่าล้วนๆ ลองให้ลูกสังเกตโครงสร้างประโยคจากบทความ ข่าว หรือหนังสือที่อ่าน หรือจากซีรีส์ที่ดู
เน้นการใช้จริง (Practice Makes Perfect): การทำแบบฝึกหัดแกรมม่าเป็นสิ่งจำเป็น แต่ต้องเน้นการนำไปใช้จริง ให้ลูกลองเขียนประโยคสั้นๆ เขียนอีเมล เขียนโพสต์สั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่สนใจ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ช่วยตรวจสอบ (อย่างให้กำลังใจ)
หาแหล่งเรียนรู้เสริมที่สนุก: มีช่อง YouTube ติวแกรมม่าดีๆ มากมายที่อธิบายเข้าใจง่าย หรือแอปพลิเคชันที่สอนแกรมม่าผ่านเกมและแบบฝึกหัดที่น่าสนใจ
3. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (English Environment)
การเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดคือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นๆ แม้เราจะไม่ได้อยู่ต่างประเทศ แต่ก็สร้างได้ที่บ้าน
ชวนลูกคุยภาษาอังกฤษง่ายๆ: อาจจะเริ่มจากประโยคสั้นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น "Good morning," "How was your day?" "Let's eat." ไม่ต้องกลัวผิด เน้นการสื่อสาร
กำหนด "English Time": อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ 15-30 นาทีต่อวัน ที่ทุกคนในบ้านพยายามพูดภาษาอังกฤษ หรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ
ใช้เกมและกิจกรรม: เล่น Scrabble, Word Search, Crossword Puzzles หรือเกมทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ จะช่วยให้การเรียนรู้สนุกขึ้น
ให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ: เมื่อลูกมีความพยายามหรือพัฒนาการที่ดี ให้คำชมหรือรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นกำลังใจ
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ - "ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ" ตัวช่วยสำคัญ!
หากคุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่าลองทำทุกวิธีแล้ว แต่ลูกยังไม่กระเตื้อง การปรึกษา ติวเตอร์ภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือคอร์สเรียนที่เน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะจุด อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
วิเคราะห์ปัญหาเชิงลึก: ติวเตอร์สามารถประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของลูกได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการสอนที่เหมาะสม
เน้นพัฒนาทักษะเฉพาะ: ไม่ว่าจะเป็นการฟัง แกรมม่า หรือการสนทนา ติวเตอร์สามารถออกแบบบทเรียนที่ตรงกับความต้องการของลูก
สร้างความมั่นใจ: การมีคนคอยแนะนำและแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างใจเย็น จะช่วยให้ลูกกล้าใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น
เตรียมพร้อมสอบ: สำหรับนักเรียนม.ปลาย การเตรียมตัวสอบสำคัญมาก ติวเตอร์จะช่วยติวเข้มและแนะนำเทคนิคการทำข้อสอบได้
กุญแจสำคัญ คือ ความสม่ำเสมอ และ ความอดทน คุณพ่อคุณแม่คือผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเป็นกำลังใจและสนับสนุนลูก อย่ากดดัน แต่จงเป็นผู้นำทางให้ลูกค้นพบความสนุกและความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษค่ะ
Total Rating ✔
9.2 stars – 2,789 reviews
More Reviews
อ่านรีวิว ทั้งหมดคลิก
แสดงความคิดเห็น
ม.ปลาย "อ่อนภาษาอังกฤษ" ฟังไม่รู้เรื่อง แกรมม่าไม่แม่น? นี่คือทางออกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องอ่าน!
บทความจาก TutorFerry, เรียนภาษาอังกฤษ, สอนภาษาอังกฤษ