สำรวจ
รีวิว
สอบเข้า
ออนไลน์

บทความจาก TutorFerry

ค้นหาด้วยเสียง
ค้นหาด้วยเสียงคลิกที่นี่

Home » Tutor » บทความจาก TutorFerry

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความจาก TutorFerry แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความจาก TutorFerry แสดงบทความทั้งหมด

18 เมษายน 2560

เรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลงดัง เนื้อเพลงคำอ่านและคำแปลเพลง Zen Zen Zense [ Anime : Kimi no Na wa. (Your Name.) }

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ
เรียนภาษาญี่ปุ่นตัวต่อตัวที่บ้าน

เนื้อเพลง Zen Zen Zense

Anime : Kimi no Na wa. (Your Name.)




やっと眼を覚ましたかい

yatto me o samashita kai

ในที่สุดเธอก็ลืมตาขึ้นมาแล้วสินะ




それなのになぜ眼も合わせやしないんだい?

sore nanoni naze me mo awase ya shinaindai?

แต่กระนั้นทำไมเธอกลับไม่สบตาฉันเลยล่ะ?




「遅いよ」と怒る君

“osoi yo” to okoru kimi

“มาสายนะ” เธอกล่าวอย่างโกรธๆ




これでもやれるだけ飛ばしてきたんだよ

kore demo yareru dake tobashitekitanda yo

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ฉันก็บินมาหาเท่าที่จะทำได้แล้วนะ




心が身体を追い越してきたんだよ

kokoro ga karada o oikoshitekitanda yo

หัวใจมันแซงมาถึงก่อนร่างกายซะอีกนะ




君の髪や瞳だけで胸が痛いよ

kimi no kami ya hitomi dake de mune ga itai yo

แค่เส้นผมหรือดวงตาของเธอก็ทำให้ฉันปวดใจแล้ว



同じ時を吸いこんで離したくないよ

onaji toki o suikonde hanashitakunai yo

สูดช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ไม่อยากจะปล่อยมันไปหรอกนะ


遥か昔から知る その声に

haruka mukashi kara shiru sono koe ni

เสียงของเธอที่ฉันรู้จักมานานแสนนานแล้ว




生まれてはじめて 何を言えばいい?

umarete hajimete nani o ieba ii?

เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ ฉันควรจะพูดอะไรดี?


君の前前前世から僕は 君を探しはじめたよ

kimi no zen zen zensei kara boku wa kimi o sagashihajimeta yo

ฉันเริ่มออกตามหาเธอมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ ของเธอเชียวนะ




そのぶきっちょな笑い方をめがけて やってきたんだよ

sono bukiccho na waraikata o megakete yattekitanda yo

มาที่นี่เพื่อดูแลรอยยิ้มเคอะเขินของเธอไงล่ะ




君が全然全部なくなって チリヂリになったって

kimi ga zenzen zenbu nakunatte chirijiri ni nattatte

แม้เธอจะสูญสลายจนหมด ถูกพัดกระจัดกระจายไป



もう迷わない また1から探しはじめるさ

mou mayowanai mata ichi kara sagashihajimeru sa

ฉันก็ไม่ลังเล ที่จะเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้งเพื่อตามหาเธอ




むしろ0から また宇宙をはじめてみようか

mushiro zero kara mata uchuu o hajimetemiyou ka

หรือจะลองเริ่มจักรวาลทั้งหมดอีกครั้งจาก 0 เสียเลยดีนะ




どっから話すかな

dokkara hanasu kana

จะเริ่มจากตรงไหนดีนะ




君が眠っていた間のストーリー

kimi ga nemutteita aida no sutoorii

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เธอหลับมาตลอด




何億 何光年分の物語を語りにきたんだよ

nanoku nankounenbun no monogatari o katari ni kitanda yo

ฉันมาเพื่อจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาไม่รู้กี่ร้อยล้าน กี่ปีแสงให้เธอฟัง




けどいざその姿この眼に映すと

kedo iza sono sugata kono me ni utsusu to

แต่ตอนนี้นึกออกแต่ตัวตนของเธอที่สะท้อนอยู่ในตาฉัน





君も知らぬ君とジャレて 戯れたいよ

kimi mo shiranu kimi to jarete tawamuretai yo

อยากจะหยอกเย้าและกวนเธอในแบบที่เธอก็ไม่รู้จัก



君の消えぬ痛みまで愛してみたいよ

kimi no kienu itami made aishitemitai yo

ฉันจะพยายามรักแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่ไม่ลบเลือนของเธอ



銀河何個分かの 果てに出逢えた

ginga nankobun kano hate ni deaeta

เราได้พบกันแล้วตรงสุดทางช้างเผือกอันมากมาย




その手を壊さずに どう握ったならいい?

sono te o kowasazu ni dou nigitta nara ii?

จะกุมมือเธออย่างไรโดยที่ไม่ให้มันสลายไปดี?




君の前前前世から僕は 君を探しはじめたよ

kimi no zen zen zensei kara boku ha kimi o sagashihajimeta yo

ฉันเริ่มออกตามหาเธอมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ ของเธอเชียวนะ




その騒がしい声と涙をめがけ やってきたんだよ

sono sawagashii koe to namida o megake yattekitanda yo

มาที่นี่เพื่อดูแลรักษาเสียงอันโหวกเหวกและน้ำตาของเธอไงล่ะ




そんな革命前夜の僕らを誰が止めるというんだろう

sonna kakumei zenya no bokura o dare ga tomeru to iundarou

ใครบอกว่าจะหยุดพวกเราในคืนก่อนการปฏิวัติได้นะ?



もう迷わない 君のハートに旗を立てるよ

mou mayowanai kimi no haato ni hata o tateru yo

แต่ฉันก็ไม่ลังเล ชักธงขึ้นไว้ที่หัวใจของเธอ




君は僕から諦め方を 奪い取ったの

kimi wa boku kara akiramekata o ubaitotta no

เพราะเธอน่ะปล้นวิธียอมแพ้จากฉันไปหมดแล้วไง



前前前世から僕は 君を探しはじめたよ

zen zen zensei kara boku wa kimi o sagashihajimeta yo

ฉันเริ่มออกตามหาเธอมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ เลยนะ




そのぶきっちょな笑い方をめがけて やってきたんだよ

sono bukiccho na waraikata o megakete yattekitanda yo

มาที่นี่เพื่อดูแลรอยยิ้มเคอะเขินของเธอไงล่ะ



君が全然全部なくなって チリヂリになったって

kimi ga zenzen zenbu nakunatte chirijiri ni nattatte

แม้เธอจะสูญสลายจนหมด ถูกพัดกระจัดกระจายไป



もう迷わない また1から探しはじめるさ

mou mayowanai mata ichi kara sagashihajimeru sa

ฉันก็ไม่ลังเล ที่จะเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้งเพื่อตามหาเธอ



何光年でも この歌を口ずさみながら

nankounen demo kono uta o kuchizusaminagara

พลางฮัมบทเพลงนี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีแสงก็ตาม







เรียนภาษาเกาหลีจากเพลงดัง เนื้อเพลงคำอ่านและคำแปลเพลง Take You Home (바래다줄게) : BAEKHYUN (백현) STATION

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ
เรียนภาษาเกาหลีที่บ้าน อยู่ที่ไหนก็เรียนได้


เนื้อเพลง Take You Home (바래다줄게)

: BAEKHYUN (백현) STATION





알아, 아무렇지도 않은 척해 봐도

อา รา อา มู รอ จี โด อา นึน ชอ เค บวา โด

ผมรู้ ถึงคุณจะทำเหมือนไม่มีอะไรก็เถอะ



기다린단 걸 애써 웃어 보는


คี ดา ริน ดัน กอล เอ ซอ อุ ซอ โบ นึน

คุณกำลังรอ กับเสียงหัวเหราะฝืนๆ



눈가에 묻은 슬픔


นุน กา เอ มู ดึน ซึล พึม

และความเศร้าในดวงตา



내가 어쩔 수 없단 걸


เน กา ออ จอล ซู ออบ ดัน กอล

ผมทำอะไรไม่ได้เลย



느낄 수 있어


นือ กิล ซู อิ ซอ

แต่ก็รู้สึกถึงมัน



괜찮아 미안하단 말


แควน ชา นา มี อัน ฮา ดัน มัล

ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก



곁에 있는 것만으로


คยอ เท อิท นึน กอท มา นือ โร

แค่ได้อยู่ข้างๆ คุณน่ะ



충분해, 하지 마


ชุง บู เน ฮา จี มา

ก็พอแล้ว ไม่เป็นไรเลย



아냐 됐다 그냥 네 맘


อา นยา ดเวท ดา คือ นยัง นี มัม

ถ้ามันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น



편하면 들어줄게


พยอ นา มยอน ทือ รอ จุล เก

ผมจะรับฟังคุณเอง



네 남자 아니지만


นี นัม จา อา นี จี มัน

ถึงผมจะไม่ใช่ผู้ชายของคุณ



조금만 지켜봐 줘 (I need you girl)


โช กึม มัน ชิ คยอ บวา จวอ (I need you girl)

แต่ก็ช่วยมองผมหน่อยนะ (I need you girl)



너의 그 사람 아니지만


นอ เอ คือ ซา รัม อา นี จี มัน

ถึงผมจะไม่ใช่คนๆ นั้นของคุณก็ตาม



너를 안아줄 순 없어도 널 집에 데려갈


นอ รึล อา นา จุล ซุน ออบ ซอ โด นอล ชิ เบ เท รยอ กัล

แม้จะโอบกอดคุณไว้ไม่ได้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายไหล่กว้างคนนึง



넓은 등을 가진 그런 남자야


นอล บึน ทือ งึล คา จิน คือ รอน นัม จา ยา

ที่จะพาคุณกลับถึงบ้านได้


바래다줄게

พา เร ดา จุล เก

ผมจะไปส่งคุณเอง



내게 기대


เน เก คี เด

เชื่อผมนะ



아무렇지도 않은 척해 봐도


อา มู รอ จี โด อา นึน ชอ เค บวา โด

ถึงคุณจะทำเหมือนไม่มีอะไร



기다린단 걸 애써 미소 짓는


คี เด ริน ดัน กอล เอ ซอ มี โซ จิท นึน

คุณกำลังรอ กับรอยยิ้มนั้น


입가에 묻은 슬픔

อิบ กา เอ มู ดึน ซึล พึม

ที่แฝงไปด้วยความเศร้า



네가 어쩔 수 없단 걸


นี กา ออ จอล ซู ออบ ดัน กอล

ผมทำอะไรไม่ได้เลย



느낄 수 있어


นือ กิล ซู อิ ซอ

แต่ก็รู้สึกถึงมัน



괜찮아 미안하단 말


แควน ชา นา มี อัน ฮา ดัน มัล

ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก



곁에 있는 것만으로


คยอ เท อิท นึน กอท มา นือ โร

แค่ได้อยู่ข้างๆ คุณน่ะ



충분해, 하지 마


ชุง บู เน ฮา จี มา

ก็พอแล้ว ไม่เป็นไรเลย



아냐 됐다 그냥 네 맘


อา นยา ดเวท ดา คือ นยัง นี มัม

ถ้ามันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น


편하면 들어줄게

พยอ นา มยอน ทือ รอ จุล เก

ผมจะรับฟังคุณเอง



네 남자 아니지만


นี นัม จา อา นี จี มัน

ถึงผมจะไม่ใช่ผู้ชายของคุณ



조금만 지켜봐 줘 (I need you girl)


โช กึม มัน ชิ คยอ บวา จวอ (I need you girl)

แต่ก็ช่วยมองผมหน่อยนะ (I need you girl)


너의 그 사람 아니지만

นอ เอ คือ ซา รัม อา นี จี มัน

ถึงผมจะไม่ใช่คนๆ นั้นของคุณก็ตาม



너를 안아줄 순 없어도 널 집에 데려갈


นอ รึล อา นา จุล ซุน ออบ ซอ โด นอล ชิ เบ เท รยอ กัล

แม้จะโอบกอดคุณไว้ไม่ได้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายไหล่กว้างคนนึง



넓은 등을 가진 그런 남자야


นอล บึน ทือ งึล คา จิน คือ รอน นัม จา ยา

ที่จะพาคุณกลับถึงบ้านได้



바래다줄게


พา เร ดา จุล เก

ผมจะไปส่งคุณเอง



내게 기대


เน เก คี เด

เชื่อผมนะ



이 말도 안 되는 어설픈 위로만으로


อี มัล โด อัน ดเว นึน ออ ซอล พึน วี โร มา นือ โร

เขาไม่รู้ได้ยังไงกันนะ ว่าคุณจะยิ้ม



(힘이 되었단 걸 그때의 난)


(ฮี มี ดเว ออท ดัน กอล คือ เต เอ นัน)

(ที่ผมมอบความเข้มแข็งให้คุณได้)



널 웃게 할 수 있단 걸 그 앤 왜 모르는지


นอล อุท เก ฮัล ซู อิท ดัน กอล คือ เอน เว โม รือ นึน จี

กับเพียงแค่คำปลอบโยนตลกๆ พวกนี้



내 모습 그대로를


เน โม ซึบ คือ เด โร รึล

ผมจะเป็นแบบนี้แหละ



조금만 지켜봐 줘 (I love you girl)


โช กึม มัน ชี คยอ บวา จวอ (I love you girl)

ช่วยมองผมหน่อยนะ (I love you girl)



너의 그 사람 아니지만


นอ เอ คือ ซา รัม อา นี จี มัน

ถึงผมจะไม่ใช่คนๆ นั้นของคุณก็ตาม


지금 안아볼 순 없대도 네 곁을 지켜줄

ชี กึม อา นา บล ซุน ออบ เด โด นี คยอ ทึล ชี คยอ จุล

ถึงตอนนี้จะโอบกอดคุณไว้ไม่ได้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายที่มีหัวใจคนนึง



넓은 맘을 가진 그런 남자야


นอล บึน มา มึล คา จิน คือ รอน นัม จา ยา

ผมจะปกป้องคุณเอง


바래다줄게

พา เร ดา จุล เก

ผมจะไปส่งคุณ



내게 기대


เน เก คี เด

เชื่อใจผมนะ







17 เมษายน 2560

โรงเรียนประถมและมัธยมในภูเก็ต มีโรงเรียนอะไรบ้าง

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต


ที่อยู่: 4020 วิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000



โรงเรียนมัธยม สพม.


อำเภอเมืองภูเก็ต


  • โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
  • โรงเรียนสตรีภูเก็ต
  • โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

อำเภอถลาง


  • โรงเรียนเมืองถลาง
  • โรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม “จุติ-ก้อง อนุสรณ์”
  • โรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์

อำเภอกะทู้


  • โรงเรียนกะทู้วิทยา


โรงเรียนนานาชาติ


  • โรงเรียนนานาชาติ QSI ภูเก็ต
  • โรงเรียนานาชาติบริติช ภูเก็ต
  • โรงเรียนนานาชาติเฮดสตาร์ท
  • โรงเรียนภูเก็ต นานาชาติ อคาเดมี เดย์


โรงเรียนเอกชน



  • โรงเรียนกาญจนวัฒน์วิทยา
  • โรงเรียนพุทธมงคลนิมิต
  • โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา
  • โรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ต
  • โรงเรียนดาราสมุทรภูเก็ต
  • โรงเรียนขจรเกียรติศึกษา
  • โรงเรียนวิทยาสาธิต
  • โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว(ประศาสน์วิทยา) phuketthaihua



โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต



  • โรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์
  • โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว
  • โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมฯ
  • โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง (ขุนวิเศษนุกูลกิจอุทิศ)
  • โรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต
  • โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี


โรงเรียนประถม สพฐ.



  • เกาะมะพร้าว
  • เกาะสิเหร่
  • เกาะโหลน
  • บ้านกะตะ (ตรีทศยุทธอุปถัมภ์)
  • บ้านกู้กู
  • บ้านฉลอง
  • บ้านทุ่งคา (บุณยขจรประชา อาสา)
  • บ้านบางคู
  • บ้านสะปำ (มงคลวิทยา)
  • บ้านอ่าวนำบ่อ
  • วัดเทพนิมิตร
  • วัดลัฎฐิวนาราม
  • วัดสว่างอารมณ์
  • วัดสุวรรณคีรีเขต
  • วิชิตสงคราม
  • แหลมพันวา
  • อนุบาลภูเก็ต
  • ไทยรัฐวิทยา 29
  • บ้านกะหลิม
  • บ้านเก็ตโฮ่
  • บ้านบางทอง
  • วัดสุวรรณคีรีวงค์
  • บ้านเกาะนาคา
  • ถลางพระนางสร้าง
  • บ้านคอเอน
  • บ้านโคกวัดใหม่
  • บ้านเชิงทะเล (ตันติวิท)
  • บ้านท่าเรือ
  • บ้านบางเทา
  • บ้านบางโรง
  • บ้านป่าครองชีพ
  • บ้านป่าคลอก
  • บ้านพรุจำปา
  • บ้านพารา
  • บ้านม่าหนิก
  • บ้านไม้ขาว
  • บ้านลิพอน
  • บ้านสาคู
  • บ้านหมากปรก
  • บ้านแหลมทราย
  • บ้านอ่าวปอ
  • วัดเทพกระษัตรี
  • วัดมงคลวราราม
  • วัดเมืองใหม่
  • วัดศรีสุนทร (มิตรภาพ 15)
  • หงษ์หยกบำรุง


โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต



  • โรงเรียน อบจ.เมืองภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต
  • โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ (วันครู ๒๕๐๒)-โรงเรียนบ้านตลาดเหนือฯ เป็นโรงเรียนในสังกัด อบจ. ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต
  • โรงเรียน อบจ.บ้านไม้เรียบ (ตันติโกวิทบำรุง)อำเภอกะทู้ เปิดให้เป็นโรงเรียนที่มีการจัดระบบการเรียนการสอน ภาคภาษาอังกฤษ ทุกระดับชั้น)
  • โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน อำเภอเมืองภูเก็ต โรงเรียนประถมศึกษา



วิทยาลัยสังกัดรัฐ และเอกชน


วิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา


  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต
  • วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต
  • วิทยาลัยเทคนิคถลาง
  • วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต


วิทยาลัยสังกัดเอกชน


  • วิทยาลัยเทคโนโลยีภูเก็ต
  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาบริหารธุรกิจภาคใต้ (เอส.แบค)
  • วิทยาลัยราชพฤกษ์ ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีภูเก็ต จ.ภูเก็ต

ข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/






08 เมษายน 2560

เตรียมสอบครูผู้ช่วย ปี2560

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ
เตรียมสอบครูผู้ช่วย ปี2560


สอบครูผู้ช่วย สอบอะไรกันบ้าง ?

ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป



1. ความรอบรู้ (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) ให้ทดสอบในเรื่องต่อไปนี้

- สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน
- นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- วัฒนธรรมไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
- กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ
- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๔๕ และ ๒๕๕๓
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และทีแก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖
- พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑
- กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับส่วนราชการนั้นกำหนด (ถ้ามี ให้ระบุไว้ในประกาศรับสมัครสอบแข่งขันด้วย)


2. ความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) ให้ทดสอบด้วยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัยในเรื่องต่อไปนี้

- ความสามารถด้านตัวเลข ให้ทดสอบโดยการวัดความสามารถในการคิดเลข สรุปเหตุผลเกี่ยวกับตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ
- ความสามารถด้านภาษาไทย ให้ทดสอบความเข้าใจภาษา การอ่านจับใจความ การสรุปความ การตีความ การขยายความ การเรียงข้อความ การสะกดคำ การแต่งประโยค และคำศัพท์
- ความสามารถด้านเหตุผล ให้ทดสอบโดยการวัดความสามารถในการคิดสรุปหาเหตุผล และอุปมาอุปไมย


3. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมและอุดมการณ์ของความเป็นครู

- วินัยและการรักษาวินัย
- คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
- มาตรฐานวิชาชีพ
- จรรยาบรรณวิชาชีพ
- สมรรถนะวิชาชีพ
- เจตคติต่อวิชาชีพครู 


----------------------------------



สอบครูผู้ช่วย สอบอะไรกันบ้าง ?  ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป

แนะนำครูหมอ ติวสอบครูผู้ช่วย ออนไลน์ทางสไกป์


ครูหมอ ปริวัฒน์ คำฟูบุตร ( Online ID : 70336 )

สอนวิชา : ภาษาไทย ติวสอบครูผู้ช่วย (กฏหมาย วินัย วิชาการศึกษา)

ปริญญาตรี ครุศาสตร์ สาขาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (นศ.ทุน)
ศึกษาศาสตร์ สาขา บริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเนชั่น
ประสบการณ์สอบครูมา 4 ปี ติดทุกปี

รางวัลผู้ฝึกสอนเหรียญทองระดับชาติ การแข่งสุนทรพจน์

----------------------------------


แนวทางหลักเกณฑ์ฯ การสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย โดยกระทรวงศึกษาธิการ 


ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงแนวทางหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้มีการจัดสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกส่วนราชการ รวมทั้งเพื่อให้สถานศึกษามีอัตรากำลังข้าราชการครูเพียงพอต่อความต้องการ และทันกำหนดการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โดยแนวทางที่จะปรับปรุง สรุปดังนี้



1. การสอบแข่งขัน แบ่งเป็นภาค ก   ภาค ข  และภาค ค

2. ผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน
- ภาค ก  ให้ ก.ค.ศ. หรือส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย เป็นผู้ดำเนินการสอบ
- ภาค ข และ ภาค ค  ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งแล้วแต่กรณี เป็นผู้ดำเนินการสอบ

3. กำหนดวันเวลาในการสอบ
- ภาค ก  ให้ ก.ค.ศ. หรือส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย เป็นผู้กำหนดวันเวลาในการสอบ
- ภาค ข และ ภาค ค  ให้ส่วนราชการ เป็นผู้กำหนดวันเวลาในการสอบ


4. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบ
  - ภาค ก
1) ต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30
2) ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานตำแหน่ง ครูผู้ช่วย
3) ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่น ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ค.ศ. ไม่หลังวันรับสมัครวันสุดท้าย
 - ภาค ข และ ภาค ค  กำหนดเหมือนภาค ก แต่เพิ่มอีก 1 ข้อ คือ "ต้องมีหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาค ก ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี"

5. หลักสูตรการสอบแข่งขัน แบ่งออก เป็น 3 ภาค
- ภาค ก  ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม และอุดมการณ์ของความเป็นครู มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา และความรู้อื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่
- ภาค ข  ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง
 - ภาค ค  ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ

6. ค่าธรรมเนียมในการสมัคร
- ภาค ก  ค่าธรรมเนียม 200 บาท
- ภาค ข และ ภาค ค  ค่าธรรมเนียม 300 บาท

7. การดำเนินการสอบ ภาค ก  ภาค ข  และ ภาค ค
1) ประกาศรับสมัครไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
2) รับสมัครสอบแข่งขันไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ไม่เว้นวันหยุดฯ ด้วยการยื่นสมัครด้วยตนเองหรือยื่นสมัครทางอิเล็กทรอนิกส์
3) กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร คุณสมบัติฯ
4) ให้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบแข่งขัน
5) ผู้ดำเนินการสอบฯ อาจตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

8. เกณฑ์การตัดสิน
- ภาค ก  ใช้เกณฑ์ “ผ่าน” โดยต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบ จึงจะออกหนังสือรับรองผลการสอบผ่านให้
- ภาค ข และ ภาค ค  ต้องได้คะแนนแต่ละภาคไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบ จึงจะถือว่าเป็นผู้สอบแข่งขันได้

9. การประกาศรายชื่อ
- ภาค ก  ให้ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน โดยต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ และให้ออกหนังสือรับรองผลให้แก่ผู้สอบผ่าน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครสอบ ภาค ข และ ภาค ค
- ภาค ข และ ภาค ค  ให้ประกาศรายชื่อเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ โดยให้เรียงลำดับที่จากผู้ที่ได้คะแนนรวมทั้ง 2 ภาค จากมากไปหาน้อย

10. อายุหนังสือรับรองผลการสอบ ภาค ก   หนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาค ก ให้ใช้ได้ไม่เกินห้าปี นับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน หากได้รับการบรรจุและแต่งตั้งฯแล้ว หนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก ทุกฉบับ ที่ออกก่อนวันบรรจุและแต่งตั้งเป็นอันยกเลิก

11. อายุการขึ้นบัญชี   บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้เป็นไปตามประกาศการขึ้นบัญชีฯ

12. การเรียกตัวเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง
1) ครั้งแรก ให้ใช้ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ เป็นการเรียกตัวผู้มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ที่ประกาศผลการสอบแข่งขัน ก่อนการเปิดภาคเรียนไม่น้อยกว่า 15 วัน
2) ครั้งต่อๆ ไป ให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน ทำหนังสือเรียกตัวผู้สอบแข่งขันได้โดยตรงเป็นรายบุคคล ก่อนวันรายงานตัวไม่น้อยกว่าสิบวัน

ที่มา : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 6 สิงหาคม 2559


กำหนดการสอบครูผู้ช่วย ปี 2560

เตรียมสอบครูผู้ช่วย ปี2560




07 เมษายน 2560

พูดภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษา

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

SPEAK ENGLISH LIKE A NATIVE SPEAKER

การเรียนภาษาอังกฤษจากโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ได้เรียนในหลักสูตรอินเตอร์ (เรียนกับเจ้าของภาษา หรืออาจารย์ที่มีประสบการณ์ในต่างประเทศ) ก็คงยากที่จะพูดภาษาอังกฤษได้แบบเจ้าของภาษาจริงๆ 


ฟังภาษาอังกฤษให้ได้เหมือนฟังภาษาของเราเอง


การเริ่มเรียนภาษาที่ถูกต้อง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มจากการฟัง และฟังจากเจ้าของภาษาหรือจากผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาก็ได้ ดังนั้นถ้าต้องการพูดภาษาอังกฤษแบบ Native จึงต้องฝึกฟัง ง่ายที่สุดคือการฟังจากภาพยนต์ หรือฟังวิทยุต่างประเทศ ฟังและจับใจความให้ได้ หรือการเรียนสนทนาภาษาอังกฤษออนไลน์กับ Teacher เจ้าของภาษา หรือกับอาจารย์ที่พูดได้แบบเจ้าของภาษาก็ได้ ซึ่งหลายๆคนเข้าใจว่า ต้องเป็นเจ้าของภาษาเท่านั้นจึงจะพูดได้ชัดเจน จริงๆแล้วคนไทยที่ไปเรียนหรือใช้ชีวิตที่ต่างประเทศก็พูดภาษาได้ชัดเหมือนเจ้าของภาษาได้


แนะนำครูสอนสนทนาภาษาอังกฤษออนไลน์สดทาง  Skype หรือทาง Line VDO Call


แนะนำครูสอนสนทนาภาษาอังกฤษออนไลน์สดทาง

Skype หรือทาง Line VDO Call 


ครูบิลล์ ฉัตริน มงคลศิริ 11327

สอนภาษาอังกฤษ
จบปริญญาโทสาขาบริหารจากมหาลัย University College London (UCL)
เป็นคนอัธยาศัยดี มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและตรงต่อเวลา 
ลักษณะการสอนเป็นกันเองและจะพยายามให้นักเรียนทำความเข้าใจมากกว่าใช้วิธีท่องจำ


ครูนิค นิโคลัส ลอว์ 11300

สอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
จบปริญญาตรี อักษรศาตร์จีน ที่มหาลัย beijing language and culture university  
2015 - 2016
สอบ IELTS ได้ 9/10
ใจเย็นต่อนักเรียน อัธยาศัยดี และสอนให้เข้ากับจังหวะที่เหมาะสมกับนักเรียนคนนั้นที่สุด

TeacherRoger Roger Denoon 11062

ชาวอเมริกัน
สอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
ปริญญาตรี เอกภาษาสเปน ที่มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย สเตท แซน มาร์โคส์ สหรัฐอเมริกา 
เคยสอนเด็กๆที่ประเทศจีน และเป็นติวเตอร์ที่จีน  และสอนระดับมหาลัย รวมแล้ว 3 ปีครับ
นิสัยใจเย็น อารมณ์ดี พูดเก่ง พูดเยอะ ลักษณะการสอนจะเป็นแบบเน้นการฟังพูด เน้นให้กล้าพูด กล้าแสดงออกกับต่างชาติ ผิดถูกไม่ว่ากัน  เดี๋ยวค่อยๆปรับให้ได้ เน้นศัพท์และแกรมม่าในชีวิตประจำวัน


TeacherYouness Tanani 10881

สอนภาษาอังกฤษ
1998-2002: Degree Bachelor of Letters Human sciences
Expert Rating

2013-2014: Certificate
Arabic to English Translation Skills
Expert Rating

2013-2014: Certificate
Computer Technician
Expert Rating

Teaching university students.
ALTIBBI Health Organization. Position Psychiatry and Wellness
ชายแท้ สูงหล่อ อบอุ่นใจดี
ศาสนาอิสลาม

เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ เรียนภาษาเกาหลีออนไลน์ เรียนภาษาจีนออนไลน์ เรียนภาษาเยอรมันออนไลน์ เรียนเคมีออนไลน์ เรียนฟิสิกส์ออนไลน์ เรียนคณิตศาสตร์ออนไลน์








28 มีนาคม 2560

ประโยคสนทนาภาษาจีนเบื้องต้น

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

ภาษาจีนเบื้องต้น

เรียนภาษาจีนตัวต่อตัวที่บ้านหรือเรียนทางสไกป์


การทักทายในภาษาจีน


1.你好
    Nǐ hǎo
    หนี่ห่าว
    สวัสดี

2.您好
    Nín hǎo
    หนินห่าว
    สวัสดี

3.早安
   Zǎo ān
   เจ่าอาน
   อรุณสวัสดิ์

4.早上好
   Zǎoshang hǎo
   เจ่าซ่างห่าว
   สวัสดีตอนเช้า

5.晚安
   Wǎn'ān
   หวานอาน
   ราตรีสวัสดิ์

6.晚上好
   Wǎnshàng hǎo
   หว่านซ่างห่าว
   สวัสดีตอนเย็น

7.老师好
   Lǎoshī hǎo
   เหล่าซือห่าว
   สวัสดีคุณครู/อาจารย์
 
8.好久不见,你怎么样?
   Hǎojiǔ bùjiàn, nǐ zěnme yàng?
   ห่าวจิ่วปู๋เจี้ยน หนี๋เจิ่นเมอย่าง
   ไม่ได้เจอกันนาน เป็นไงบ้าง

9.最近忙吗?
   Zuìjìn máng ma?
   จุ้ยจิ้น หมางมะ
   ช่วงนี้ยุ่งไหม

10.你身体好吗?
      Nǐ shēntǐ hǎo ma?
      หนี่เซินถี่ห่าวมะ
      คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง

11.我的身体很好。
      Wǒ de shēntǐ hěn hǎo.
      หว่อเตอเซินถี่เหิ่นห่าว
       สุขภาพฉันดี

12.你父母身体好吗?
      Nǐ fùmǔ shēntǐ hǎo ma?
      หนี่ ฟู่หมู่ เซินถี่ ห่าวมะ
      พ่อแม่คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง

13.带我向他们问好。
     Dài wǒ xiàng tāmen wènhǎo.
     ไต้หว่อเซี่ยงทาเมิน เวิ่นห่าว
      ฝากสวัสดีพ่อแม่คุณด้วย

14.你好吗?
      Nǐ hǎo ma?
      หนีห่าวมะ
      คุณสบายดีไหม

15.我很好,你呢
      Wǒ hěn hǎo, nǐ ne
      หว่อ เหินห่าว หนี่เนอ
      ฉันสบายดี คุณล่ะ

16.我也很好。
      Wǒ yě hěn hǎo.
      หว่อ เหย่ เหิน ห่าว
      ฉันก็สบายดี



การกล่าวลาในภาษาจีน


1.再见
   Zàijiàn
   จ้าย เจี้ยน
   พบกันใหม่

2.明天见.
   Míngtiān jiàn.
   หมิงเทียนเจี้ยน
   พรุ่งนี้เจอกัน

3.回头见.
   Huítóu jiàn.
   หุยโถวเจี้ยน
   แล้วพบกันใหม่

4.有空长联系.
   Yǒu kòng cháng liánxì.
   โหย่วโค่งฉางเหลียนซี่
   มีเวลาเจอกันใหม่นะ

5.对不起,我先走了.
   Duìbùqǐ, wǒ xiān zǒuliǎo.
   ตุ้ยปู้ฉี่ หว่อเซียนโจ่วเลอ
   ขอโทษนะ ฉันต้องไปก่อนแล้ว

6.你多保重.
    Nǐ duō bǎozhòng.
    หนี่ ตัว ป่าว จ้ง
    ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ

7.一路平安
    Yīlù píng'ān
     อี๋ลู่ผิงอาน
     เดินทางโดยสวัสดิภาพ

8.一路顺风
    Yīlù shùnfēng
    อี๋ลู่ซุ่นเฟิง
    เดินทางโดยสวัสดิภาพ

9.到了以后,我给你打电话。
     Dàole yǐhòu, wǒ gěi nǐ dǎ diànhuà.
     เต้าเลออี่โฮ่ว หวอเก่ยหนี่ต่าเตี้ยนฮว่า
     หลังจากไปถึงแล้ว ฉันจะโทรศัพท์หาคุณ



 การขอบคุณ


1.谢谢
    Xièxiè
    เซี่ยเซี่ย
    ขอบคุณ

2.多谢
    Duōxiè
    ตัวเซี่ย
    ขอบคุณมาก

3.太感谢你
    Tài gǎnxiè nǐle
    ไท่ ก่าน เซี่ย หนี่
    ขอบพระคุณมากๆ

4.谢谢你的帮助
    Xièxiè nǐ de bāngzhù
    เซี่ยเซี่ย หนี่ เตอ ปาง จู้
    ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ

5.麻烦您了
    Máfan nínle
    หมา ฝ่าน หนิน เลอ
    รบหวนคุณแล้ว

6.辛苦你了
    Xīnkǔ nǐle
    ซิน ขุ่ หนีเลอ
    ลำบากคุณแล้ว

7.我很感谢
    Wǒ hěn gǎnxiè
    หว่อ เหิ่น ก่าน เซี่ย
    ฉันขอขอบคุณจริงๆ




การตอบรับ


1.不用谢
   Bùyòng xiè
   ปู๋โย่งเซี่ย
   ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก

2.不客气
   Bù kèqì
   ปู๋เค่อชี่
   ไม่ต้องเกรงใจ

3.别客气
   Bié kèqì
   เปี๋ยเค่อชี่
   ไม่ต้องเกรงใจ

4.没关系
   Méiguānxì
   เหมยกวานซี
   ไม่เป็นไร

5.没什么
   Méishénme
   เหมย เสิน เมอ
   ไม่เป็นไร

6.你太客气了
    Nǐ tài kèqìle
    หนี่ ไท่ เค่อ ฉี่ เลอ
    คุณเกรงใจมากไปแล้ว




การขอโทษ


1.对不起(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
   Duìbùqǐ
   ตุ้ยปู้ฉี่
   ขอโทษค่ะ/ครับ

2.请原谅
   Qǐng yuánliàng
   ฉิ่ง เหยียนเลี่ยง
   ประทานโทษค่ะ/ครับ

3.不好意思
   Bù hǎoyìsi
   ปู้ห่าวอี้ซือ
   ขอโทษค่ะ/ครับ

4.真不好意思
   Zhēn bù hǎoyìsi
   เจิน ปู้ ห่าว อี้ ซือ
   ต้องขอโทษจริงๆ

5.打扰了
    Dǎrǎole
    ต่า หร่าว เลอ
    ต้องรบกวนแล้ว

6. 真抱歉(สุภาพมาก)
     Zhēn bàoqiàn
     เจิน ป้าว เชี่ยน
     ขออภัยค่ะ/ครับ




การตอบรับ


1.没关系(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
   Méiguānxì
   เหมย กวาน ซี
   ไม่เป็นไร

2.不要紧
   Bùyàojǐn
    ปู๋ เย่า จิ่น
   ไม่เป็นไร

3.别介意
   Bié jièyì
   เปี๋ย เจี้ย อี้
   ช่างเถอะ

4.没事儿
   Méishì er
   เหมย ซื่อร์
   ไม่เป็นอะไรหรอก

5.算了
   Suànle
   ซ่วน เลอ
   ลืมมันเถิด

6.这不是你的错
   Zhè bùshì nǐ de cuò
   เจ้อ ปู้ ซื่อ หนี่ เตอ ชั่ว
   ไม่ใช่ความผิดของคุณ


Cr : https://sites.google.com/site/chinese255555/home/kar-phud-phasa-cin-beuxng-tn







12 ธันวาคม 2559

คำบอกเล่าของคุณพ่อกับวิธีการโค้ชลูกและผลการสอบ TEDET ที่ผ่านมา (2559)

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

ผลการสอบ TEDET คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์


คำบอกเล่าของคุณพ่อกับวิธีการโค้ชลูกและผลการสอบ TEDET ที่ผ่านมา (2559)

คำบอกเล่าของคุณพ่อกับวิธีการโค้ชลูกและผลการสอบ TEDET ที่ผ่านมา (2559)

เฉลย TEDET ครบทุกระดับชั้นมีแล้วที่แอพพลิเคชั่นติดตั้ง (ระบบแอนดรอยด์) ที่ Google Play Store คลิกที่นี่
เฉลย TEDET ครบทุกระดับชั้นมีแล้วที่แอพพลิเคชั่น
ติดตั้ง (ระบบแอนดรอยด์) ที่ Google Play Store คลิกที่นี่

ครูหมง คุณพ่อที่สนใจและใส่ใจในเรื่องการเรียนของลูกชายมาตั้งแต่น้องยังเล็กๆ มาบอกวิธีการโค้ชเรื่องการเรียนให้ลูกพร้อมทั้งนำผลการสอบ TEDET ปี 2559 มาให้ดู โดยคุณพ่อหมงบอกกับเราว่าการสอนลูกเน้นความเข้าใจในบทเรียนที่เรียน ไม่ได้เน้นโจทย์ข้อสอบแข่งขัน


"ในวิชาคณิตศาสตร์ผมจะเน้นการสอนให้ลูกชายเข้าใจในระดับพร้อมในการสอบทั่วไป ไม่ได้เน้นแข่งขันในสนามแข่งขันโดยใช้เนื้อหาในตำราเรียน โจทย์พื้นฐาน โดยจะเรียนด้วยกันที่บ้านวันละประมาณ 15 นาที ซึ่งผลสอบที่ออกมาน้องจะได้คะแนนจากโจทย์ประยุกต์น้อย ในส่วนของวิชาวิทยาศาสตร์ การสอนจะเน้นรายลเอียดในเนื้อหา โดยฝึกทำโจทย์วันละประมาณ 10 ข้อ และมีติวพิเศษวันอาทิตย์อีก 1 ชั่วโมง โดยมีการควบคุมในเรื่องของเวลาที่ใช้ทำโจทย์ด้วย"

ครูหมงยังบอกอีกว่า สำหรับน้องคงจะต้องเพิ่มในส่วนของทักษะการทำโจทย์ประยุกต์และการเพิ่มความเร็วในการคิดโดยดึงหลักการคิดออกมาใช้ให้มีประสิทธอภาพมากขึ้น ในส่วนของวิทยาศาสตณ์คงต้องมีการเรียนรู้ที่เกินระกับชั้นมากขึ้น

ครูหมงและลูกชาย

ผลสอบ

ลูกชายครูหมง

08 ธันวาคม 2559

07 ธันวาคม 2559

หลักการแก้ปัญหาตรีโกณมิติ

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

วิธีการแก้โจทย์ปัญหาตรีโกณมิติ

เรียนคณิตศาสตร์ที่บ้านที่ขอนแก่น โคราช อุดรธานี มหาสารคาม เเชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ชลบุรี ระยอง

14 พฤศจิกายน 2559

วิชาสังคมศึกษา มัธยมต้นเรื่องโครงสร้างของสังคม

อันดับ1 ครูสอนพิเศษ เรียนพิเศษที่บ้าน กับทีมติวเตอร์คุณภาพ

โครงสร้างของสังคม

เรียนวิชาสังคมที่บ้าน ภูเเก็ต สงขลา สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี มหาสารคาม เชียงใหม่


ความหมายของโครงสร้างสังคม

หมายถึง   ลักษณะขั้นมูลฐานหรือขั้นต้นที่ก่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างมีระเบียบ   ตามกฎเกณฑ์  และเป้าหมายร่วมกัน    หรือหมายถึงสิ่งที่ยึดเหนี่ยวให้สังคมดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่มาอยู่รวมกัน   มีตำแหน่งและบทบาทที่สอดคล้องกัน    ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ยอมรับร่วมกันโครงสร้างสังคมจึงเปลี่ยน

แปลงอยู่ตลอดเวลา  เพราะสภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน  เช่น  จำนวนคนเปลี่ยน  โครงสร้างของสังคม   จึงเป็นโครงร่างที่ประกอบเพื่อเชื่อมแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคมใดๆ    ให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข


ลักษณะของโครงสร้างสังคม

1.  มีคนจำนวนหนึ่งที่ติดต่อกัน  หรือ  การกระทำระหว่างกันภายใต้รูปแบบที่สังคมวางไว้
2.  มีกฎเกณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน
3.  มีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้เพื่อการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
4.  มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้

กลุ่มทางสังคม   เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างสังคมอย่างหนึ่ง
กลุ่ม นักสังคมวิทยามีเกณฑ์ในการแบ่งกลุ่มไว้  3  ประการคือ
1.  มีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน
2.  มีการปะทะสังสรรค์ทางสังคม
3.  มีการจัดระเบียบทางสังคม

การแบ่งกลุ่ม   ไม่แน่นอนตายตัว  ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์   ดังนี้  คือ
1.  ใช้ความสัมพันธ์เป็นเกณฑ์   แบ่งเป็น
-  กลุ่มปฐมภูมิ  เป็นความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดเป็นกลุ่มเล็ก ๆ สนิทสนมและส่วนตัว  ไม่มีพิธีรีตองเพราะมีคนน้อย  เช่น  ครอบครัว  เพื่อนบ้าน ฯลฯ                                                   
-  กลุ่มทุติยภูมิ   คือเป็นความสัมพันธ์กับคนจำนวนมากเป็นกลุ่มใหญ่และเป็นทางการมักติดต่อกันตามสถานภาพ  ยึดประโยชน์เป็นสำคัญ  เช่น บริษัท ร้านค้า ฯลฯ
2.  ใช้ความรู้สึกเป็นเกณฑ์   แบ่งเป็นกลุ่มพวกเรา   และกลุ่มพวกเขา  (In-groups  and  Out  groups)  เช่น นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน    ชาวเอเชียและชาวยุโรป
3.  ใช้แบบของความสัมพันธ์  และอำนาจทางการเมือง  แบ่งออกเป็น
-  ชนกลุ่มใหญ่  คือ มีอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจ
-  ชนกลุ่มน้อย  เป็นกลุ่มขนาดเล็ก   ที่ถูกครอบงำ    โดยกลุ่มใหญ่  เช่น   ชาวเขาในประเทศไทย
4.  ใช้กลุ่มบุคคลยึดถือเป็นแบบ  หรือมาตรฐานความประพฤติ    จึงมีการลอกเลียนการกระทำ  เช่น  บุคคลที่มีชื่อเสียง   ดาราภาพยนตร์   สุภาษิต    เรียกว่า  กลุ่มอ้างอิง


องค์ประกอบของโครงสร้างสังคม   ได้แก่

1.  กลุ่มสังคมและสถาบันทางสังคม
2.  การจัดระเบียบทางสังคม


สถาบันสังคม

สถาบันสังคม   เป็นนามธรรม   หมายถึง  แบบแผนความประพฤติหรือกฎเกณฑ์แบบอย่างพฤติกรรมที่ตั้งขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม   เพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆ  ของสมาชิกในสังคม  มักออกมาในรูปของกิจกรรมต่างๆ  แสดงบทบาทเองไม่ได้ต้องอาศัยกลุ่มบุคคลซึ่งเรียกว่า  กลุ่มสังคม  เป็นผู้แสดงบทบาทแทน เช่น   บิดามารดาแสดงบทบาทในนามของสถาบันครอบครัว  เป็นต้น    สถาบันจึงเป็นกระบวนการถ่ายทอดวัฒนธรรม  ทำให้เกิดการเรียนรู้และการรับปฏิบัติตามรูปแบบความคาดหวังของสังคม


องค์ประกอบของสถาบันทางสังคม

สถาบันทางสังคมแต่ละสถาบัน  มีองค์ประกอบ  3  ประการ คือ
1.  ตำแหน่งทางสังคม
2.  หน้าที่
3.  แบบแผนการปฏิบัติ

ประเภทของสถาบันทางสังคม  แบ่งออกเป็น   7  ประเภท  คือ
1.  สถาบันครอบครัว
2.  สถาบันการศึกษา
3.  สถาบันศาสนา
4.  สถาบันเศรษฐกิจ
5.  สถาบันการเมือง  การปกครอง
6.  สถาบันนันทนาการ
7.  สถาบันสื่อสารมวลชน

หน้าที่และความสำคัญของสถาบันทางสังคม
1.  สถาบันครอบครัว   เป็นสถาบันแห่งแรกของมนุษย์   มีขนาดเล็กที่สุด  แต่มีความสำคัญมากที่สุดเพราะเป็นสถาบันที่วางพื้นฐานความประพฤติของบุคคลด้วยการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอน   เพื่อการเติบโตไปเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
ครอบครัว  (Family)  เกิดขึ้นจากการอยู่ร่วมกันระหว่างชายและหญิงในฐานะสามีและภรรยา   อาจมีบุตรหรือไม่มีก็ได้    แบ่งชนิดของครอบครัวที่ควรศึกษาที่นี้ไว้  2  ชนิด  คือ
ก.  ครอบครัวเดี่ยวหรือครอบครัวขนาดเล็ก  (Nuclear  Family)   เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วย   พ่อ  แม่ และลูก
ข.  ครอบครัวขยายหรือครอบครัวขนาดใหญ่  (Extended  Family)  เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วย   พ่อ  แม่  ลูก  และญาติ
โดยสรุปครอบครัวจึงทำหน้าที่  ผลิตสมาชิกใหม่และเลี้ยงดู ให้ความรักความอบอุ่น   กำหนดสถานภาพแก่สมาชิกที่เกิดใหม่ บำบัดความต้องการทางเพศอย่างมีรูปแบบ และทำหน้าที่ทางเศรษฐกิจในฐานะผู้ผลิตและผู้บริโภค
2.  สถาบันการศึกษา  ทำหน้าที่ต่อเนื่องจากสถาบันครอบครัวในการถ่ายทอด   ความรู้  ความคิด  โดยมุ่งหมายให้มีคุณธรรม  วัฒนธรรมและสร้างประโยชน์ต่อสังคมนับได้ว่าเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะมีบทบาทต่อพัฒนาการทางสังคม   การเมือง   และเศรษฐกิจต่อไป
3.  สถาบันศาสนา  เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่สร้างศรัทธาและความเชื่อ   อบรมสั่งสอนให้บุคคลประพฤติดีด้วยคำสอนของศาสนา  ส่งเสริมให้บุคคลสงบทางด้านจิตใจ
4.  สถาบันเศรษฐกิจ  ทำหน้าที่ในการจัดสรรทรัพยากร   เพื่อสนองความต้องการของสมาชิกในสังคมในด้านผลิตบริโภค    และแลกเปลี่ยน   รวมทั้งการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่าง ๆ
5.  สถาบันการเมืองการปกครอง  ทำหน้าที่รับผิดชอบที่จะทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขตามรูปแบบการปกครองที่แต่ละสังคมใช้
6.  สถาบันนันทนาการ  เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ด้านการพักผ่อนหย่อนใจของมนุษย์  ในลักษณะของการกระทำที่ทำให้สุขกายสบายใจ   สนุกสนาน   เช่น  กีฬา  งานอดิเรก   เป็นต้น
7.  สถาบันสื่อสารมวลชน  เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่สื่อสาร   ระหว่างบุคคลและสถาบันต่างๆ   ในสังคมเผยแพร่ข่าวสาร   บางครั้งรวมอยู่กับสถาบันการศึกษา
กล่าวโดยสรุป สถาบันทางสังคมได้รวมเอาระบบบรรทัดฐาน ซึ่งสัมพันธ์กันอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์หรือรูปแบบเดียวกัน

การจัดระเบียบทางสังคม
เป็นกระบวนการที่จะทำให้การกระทำระหว่างกันทางสังคมเป็นไปอย่างเรียบร้อย   โดยการวางรูปแบบพฤติกรรมและกระบวนการความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคม  ประกอบด้วย
1.  บรรทัดฐาน
2.  สถานภาพและบทบาท
3.  ค่านิยมและความเชื่อ
4.  การขัดเกลาทางสังคม


ความสำคัญของการจัดระเบียบทางสังคม

การจัดระเบียบทางสังคมมีความสำคัญและจำเป็นต่อสังคมมนุษย์ ทั้งนี้เนื่องจากมนุษย์มีความแตกต่างกันในด้านความต้องการและพื้นฐานทางจิตใจ  จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดความสัมพันธ์เพื่อการปะทะสังสรรค์   กับบุคคลอื่นๆ    ในสังคม    นำความเจริญก้าวหน้า   และสงบสุขมาสู่สังคม
1. สถานภาพ  (Status)  หมายถึง  ตำแหน่งซึ่งได้รับจากการเป็นสมาชิกของกลุ่ม  (สังคม)   นับตั้งแต่มนุษย์กำเนิดในสังคม  สถานภาพบอกถึงสิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบของบุคคลทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นหรือเป็นตัวกำหนดบทบาท (พฤติกรรม)  ของบุคคลให้เป็นไปตาม  กฎเกณฑ์   หรือเงื่อนไขของสังคม   สถานภาพแบ่งเป็น  2  ชนิด คือ
1.1  สถานภาพที่ติดตัวมา  (Ascribed   Status)  เป็นตำแหน่งที่บุคคลได้มาโดยสังคมเป็นผู้กำหนดและธรรมชาติเป็นตัวกำหนด   ได้แก่  เพศ,  อายุ,  วงศาคณาญาติ,  เชื้อชาติ   และถิ่นกำเนิด
1.2  สถานภาพที่ได้มาภายหลัง หรือ  ได้มาตามความสามารถ   หรือ  สถานภาพสัมฤทธิ์  (Achieved  Staug)   เป็นสถานภาพที่ได้เพิ่มเติม   หรือเปลี่ยนในภายหลัง   เพราะอาศัยความสามารถ  หรือ   การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในระบบเครือญาติ    แบ่งออกเป็น
ทางการสมรส   คือ  สถานภาพ  สามี  และภรรยา
ทางบิดามารดา  คือ  เมื่อมีบุตรจะเกิดสถานภาพ  บิดา  และมารดา
ทางการศึกษา    คือ  ตามคุณวุติที่บุคคลศึกษา    เช่น  พ.ม.,  กศ.บ.,   ค.บ. เป็นต้น
ทางอาชีพ         คือ  สถานภาพตามอาชีพ   เช่น  แพทย์  ครู  ทนายความ  พ่อค้า เป็นต้น

2.  บทบาท   (Role)   คือ   พฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามสถานภาพที่บุคคลดำรงอยู่   สถานภาพ   และบทบาทจึงเป็นของคู่กัน   เพราะสถานภาพเป็นสิ่งกำหนดบทบาทถ้าบทบาทออกนอกขอบเขตของสถานภาพก็สร้างปัญหาต่อสังคม   สถานภาพและบทบาทจึงส่งผลกระทบต่อความเจริญหรือความเสื่อมของสังคมได้  
ในความเป็นจริงบุคคลมิได้ดำรงตำแหน่งหรือมีสถานภาพในสังคมเพียงสถานภาพเดียว  แต่มาหลายสถานภาพในเวลาเดียวกัน เช่น เป็นทนายความ  เป็นลูกน้อง  เป็นบิดา หรือเป็นมารดา สถานภาพเหล่านี้   บางครั้งอาจขัดแย้งกันเรียกว่า   สถานภาพขัดกัน  เช่น  เป็นแพทย์และเป็นผู้รับทำแท้ง   เมื่อมีการแสดงบทบาทก็ก่อให้เกิดบทบาทขัดกัน  (Rosie Conflict) เช่น รักษาคนไข้  ช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ขณะเดียวกันกลับทำแท้งซึ่งเป็นการทำลายชีวิตมนุษย์
  ประโยชน์และความสำคัญของสถานภาพและบทบาท
ทำให้บุคคลรู้ฐานะของตนเอง  รู้หน้าที่  สิทธิและความรับผิดชอบ   แบ่งภาระหน้าที่ระหว่างบุคคลในสังคม   และทำให้สังคมมีระเบียบ

3.  บรรทัดฐานหรือปทัสถาน  (Norms)  เป็นกฎเกณฑ์ ระเบียบ  แบบแผน   หรือแบบความประพฤติที่วางไว้ให้บุคคลในสังคมปฏิบัติ     จึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือความนึกคิดของบุคคลในสังคม  แบ่งออกเป็น  3  ประเภท  คือ
3.1  วิถีประชาหรือวิถีชาวบ้าน   (Folkways)   เป็นบรรทัดฐานที่คนทั่วไปในสังคมปฏิบัติทั้งไปไม่มีการบังคับ   ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรม   หรือกฎหมาย   เป็นการปฏิบัติตามที่ผู้อื่นปฏิบัติจนเกิดเป็นความเคยชิน  หรือความคุ้นเคย   จึงไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงถ้ามีการละเมิดไม่ปฏิบัติ  การโต้ตอบ   ผู้ฝ่าฝืนก็คือการติฉินนินทา  เช่น  มารยาทในสังคม   แฟชั่น  เป็นต้น
3.2  ศีลธรรมจรรยาหรือจารีต   (Mores)  เป็นบรรทัดฐานที่เกี่ยวข้องกับหลักคุณธรรม   คำสอนของศาสนา    จึงมีลักษณะเป็นทั้งข้อห้าม  (Taboo)  มิให้บุคคลประพฤติ  และเป็นข้อบังคับเพื่อสร้างสวัสดิภาพของสังคมหนึ่งๆ  การฝ่าฝืนถือเป็นเรื่องร้ายแรง    อาจได้รับการตอบโต้ด้วยการเลิกคบหาหรือถูกลงโทษตามกฎหมาย  เช่น  การเนรคุณต่อผู้มีคุณ   การพูดโกหก   การคบชู้    การทำร้ายร่างกายผู้อื่น   เป็นต้น
3.3  กฎหมาย  เป็นบรรทัดฐานสูงสุดของสังคม   แตกต่างจากบรรทัดฐานอื่นตรงที่บัญญัติขึ้น โดยรัฐาธิปัตย์   ใช้ควบคุมคนในสังคม  ครอบคลุมชีวิตสังคมของทุกด้าน  และมีบทลงโทษที่แน่นอนนับได้ว่ากฎหมายเป็นบรรทัดฐานที่จำเป็นสำหรับสังคมขนาดใหญ่   หรือสังคมที่ซับซ้อน เพราะวิถีประชาและกฎศีลธรรมจรรยาไม่สามารถควบคุมให้บุคคลประพฤติในกรอบที่สังคมต้องการได้  เนื่องจากกฎหมายมีรากฐานมาจากวิถีประชาและศีลธรรมจรรยา  ในบางครั้งการกระทำผิดกฎหมายจึงผิดศีลธรรมด้วย  เช่น  การฆ่าผู้อื่น  การคดโกง   เป็นต้น


ความสำคัญของบรรทัดฐาน

บรรทัดฐานเป็นแนวทางกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ที่ยอมรับร่วมกัน  การอยู่ร่วมกันย่อมเป็นไปอย่างถูกต้องเพราะทุกคนยอมรับและเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

4. ค่านิยมและความเชื่อ
ค่านิยม  หมายถึง   สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเล็งเห็นว่าดีงาม  ถูกต้องในการปฏิบัติน่ายกย่อง   ซึ่งโดยข้อเท็จจริงอาจเป็นสิ่งดีหรือเลว   ถูกหรือผิดก็ได้    ค่านิยมจึงส่งผลกระทบต่อการจัดระเบียบทางสังคมของสังคมหนึ่งๆ  ในแง่เป็นตัวชักนำความประพฤติของบุคคล  เกณฑ์การประเมินสิ่งของเหตุการณ์บุคคลว่าดี  ชั่ว   ถูก  ผิดอย่างไร   และค่านิยมยังเป็นเสมือนแรงจูงใจของบุคคลในการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ค่านิยมเกิดจากความต้องการแบบแผนที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต   ดังนั้นเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปค่านิยมบางอย่างก็อาจล้าสมัยหรือสมควรถูกยกเลิก   เช่น ค่านิยมของไทยเรื่อง  “ชายเป็นช้างเท้าหน้า  หญิงเป็นช้างเท้าหลัง”   เป็นต้น  ค่านิยมจึงเป็นเสมือนหางเสือของเรือที่ใช้บังคับทิศทางให้เรือแล่นไปสู่จุดหมายปลายทางคือ  วัฒนธรรมของสังคมนั่นเอง
ความเชื่อ    หมายถึง   ความคิดและความยึดมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง   ซึ่งอาจเป็นจริงหรือเท็จ    ก็ได้  จึงมีผลต่อความประพฤติของบุคคล  เช่น  ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์   ความเชื่อเรื่องผีมีจริง   เป็นต้น
ถ้าสมาชิกในสังคมใดมีความเชื่องมงายปราศจากเหตุผล   ย่อมส่งผลกระทบต่อสังคม


การควบคุมทางสังคม แบ่งเป็น 

1.  การจูงใจให้สมาชิกปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม เช่น การยกย่อง การชมเชย หรือการให้รางวัล 
2.  ลงโทษสมาชิกที่ละเมิดหรือฝ่าฝืนบรรทัดฐานทางสังคม เช่น ผิดวิถีชาวบ้าน การลงโทษคือตำหนิ ซุบซิบนินทา หัวเราะเยาะ ผิดกฎศีลธรรม ไม่คบหาสมาคม ผิดกฎหมาย ซึ่งการลงโทษจะมากหรือน้อยแล้วแต่การกระทำผิด

การขัดเกลาทางสังคม  (Socialization) กลไกในการเข้ากลุ่มหรือการเข้าสังคม  เมื่อบุคคลเป็นสมาชิกในสังคมใดย่อมต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบแห่งบรรทัดฐานของกลุ่มหรือสังคม  กลไกขั้นต้นที่จะทำให้บุคคลเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม  ก็คือ  การอบรมสั่งสอนหรือการขัดเกลาทางสังคม  (Socialization)   เป็นการเรียนรู้   กฎเกณฑ์   และแบบแผนของการดำเนินชีวิตตามที่สังคมต้องการส่งผลให้บุคคลเป็นที่ยอมรับของกลุ่มและสังคม  เกิดบุคลิกภาพเฉพาะตัวขึ้น


วิธีขัดเกลาทางสังคม 

1.  การขัดเกลาโดยตรง เป็นการบอกว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด แนะแนวทางในการปฏิบัติตัว เพื่อให้สามารถวางตัวให้ถูกต้อง 
2.  การขัดเกลาโดยอ้อม ให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์เองจากการสังเกต เรียนรู้จากการระทำของผู้อื่น 

พื้นฐานของกระบวนการขัดเกลาทางสังคม 
1.  มนุษย์ไม่มีสัญชาตญาณ  มนุษย์จะต่างกับสัตว์โดยไม่สามารถใช้สัญชาตญาณในการช่วยตัวเอง 
2.  มนุษย์ต้องพึ่งพาผู้อื่นในวัยเด็ก ยิ่งมนุษย์ต้องเรียนรู้กฎระเบียบมากเท่าไรก็ต้องพึงพาผู้อื่นนานเท่านั้น เช่น ทารกนั้นต้องได้รับการคุ้มครอง เลี้ยงดู การอบรมจากผู้อื่น 
3.  มนุษย์มีความสามารถในการเรียนรู้มาก ยิ่งโตมากก็จะเรียนรู้มาก จึงทำให้การขัดเกลาได้ผลตามที่สังคมคาดหวัง 
4.  มนุษย์ใช้ภาษาสื่อสารในการขัดเกลา เพื่อถ่ายทอดความคิด ความเข้าใจ ความเชื่อ ความรู้ และแบบความประพฤติในกลุ่มมนุษย์


ความมุ่งหมายของกระบวรการขัดเกลาทางสังคม 

1.  เพื่อปลูกฝังความมีระเบียบวินัย เพื่อให้สมาชิกมีแบบแผนความประพฤติตามที่กลุ่มกำหนด เป็นการสละความพอใจในปัจจุบัน เพื่อผลประโยชน์ในวันข้างหน้า เช่น นักเรียนไม่ชอบการสอบ เพราะไม่ต้องการดูหนังสือ อยากเที่ยวเล่นมากกว่า แต่ถ้าไม่ดูหนังสือก็จะสอบตก เป็นต้น 
2.  ปลูกฝังความมุ่งหวัง จะช่วยให้สมาชิกมีกำลังใจที่จะทำตามระเบียบวินัยต่างๆ 
3.  สอนให้รู้จักแสดงบทบาทของตน อย่างเหมาะสมตามกาลเทศะและโอกาสต่างๆ เช่น นักเรียนต้องใฝ่หาความรู้ แพทย์ต้องรักษาคนไข้ ฯลฯ 
4.  สอนให้เกิดความชำนาญหรือทักษะ ที่จะร่วมใช้กับผู้อื่น จะเรียนรู้ด้วยการลอกเลียนแบบสิ่งที่เห็นเป็นประจำ

ตัวแทนที่ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนขัดเกลาทางสังคม 
1.  ครอบครัว มีหน้าที่ให้การอบรมสั่งสอนสมาชิกมากที่สุด เนื่องจากสถาบันนี้เป็นสถาบันแห่งแรกที่เด็กได้รับการอบรมสั่งสอน 
2.  กลุ่มเพื่อน บุคคลจะได้รับการขัดเกลาจากกลุ่มเพื่อนอายุไล่เลี่ยกัน และจะมีการสังเกตและเอาแบบอย่าง 
3.  ครูอาจารย์ มีหน้าที่อบรมสั่งสอนด้านวิชาการอย่างเป็นทางการและมีผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กด้วย 
4. กลุ่มเพื่อนร่วมอาชีพ ถ้าจะยึดอาชีพนั้นและต้องการให้เป็นที่ยอมรับ จะต้องเรียนรู้แบบแผนต่างๆของกลุ่มใหม่ 
5. สื่อมวลชน มีอิทธิพลมากต่อกระบวนขัดเกลาสังคม 






ดูโปรไฟล์ครูสอนพิเศษทั้งหมด

  • ครูสอนพิเศษชลบุรีเรียนพิเศษที่บ้าน จ.ชลบุรี
  • ครูสอนพิเศษพิษณุโลกเรียนพิเศษที่บ้าน จ.พิษณุโลก
  • ครูสอนพิเศษเชียงใหม่เรียนพิเศษที่บ้าน จ.เชียงใหม่
  • ครูสอนพิเศษขอนแก่นเรียนพิเศษที่บ้าน จ.ขอนแก่น
  • ครูสอนพิเศษขอนแก่นเรียนพิเศษที่บ้าน จ.ภูเก็ต
  • ครูสอนพิเศษนนทบุรีเรียนพิเศษที่บ้าน จ.นนทบุรี
  • Tutor Reviews


    Total Rating ✔

    9.2 stars – 2,789 reviews


    ดูรีวิวติวเตอร์ทั้งหมด


  • รีวิวการสอนนักเรียนอินเตอร์คุณแม่น้อง เกรด 11 MUIDS ที่ราชพฤกษ์
  • รีวิวการเรียนMathคุณแม่น้อง เกรด 10 จ.ชลบุรี
  • www.tutorferry.comคุณน้าน้อง ม.5 ที่วัชรพล
  • รีวิวการสอนเสริมทักษะภาษาไทยคุณแม่น้องอนุบาล 2 ที่พัทยา
  • รีวิวการสอนภาษาเกาหลีนักเรียน คนวัยทำงาน ที่ระยอง
  • รีวิวการสอนภาษาญี่ปุ่นคนทำงาน ที่กรุงเทพฯ
  • Tutor Ferry แนะนำครูสอนพิเศษ

    เรียนพิเศษที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนพิเศษเฉพาะด้าน ต้องการครูสอนพิเศษที่บ้าน ต้องการหาครูสอนภาษา Tutor Ferry เรียนพิเศษที่บ้าน หาครูสอนพิเศษตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาที่บ้านเรียนตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ รับสอนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลีและภาษาอื่นๆ คลิกที่นี่เลย

    เรียนภาษาไทยที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ภาษาไทยใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนภาษาไทย Tutor Ferry เรียนภาษาไทยที่บ้าน หาครูสอนภาษาไทยตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาไทยตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนภาษาไทย คลิกที่นี่เลย

    เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ภาษาญี่ปุ่นใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนภาษาญี่ปุ่น Tutor Ferry เรียนภาษาญี่ปุ่นที่บ้าน หาครูสอนภาษาญี่ปุ่นตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนภาษาญี่ปุ่น คลิกที่นี่เลย

    เรียนภาษาเกาหลีที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ภาษาเกาหลีใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนภาษาเกาหลี Tutor Ferry เรียนภาษาเกาหลีที่บ้าน หาครูสอนภาษาเกาหลีตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาเกาหลีตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนภาษาเกาหลี คลิกที่นี่เลย

    เรียนวิทยาศาสตร์ที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์วิทยาศาสตร์ใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนวิทยาศาสตร์ Tutor Ferry เรียนวิทยาศาสตร์ที่บ้าน หาครูสอนวิทยาศาสตร์ตามบ้าน ต้องการเรียนวิทยาศาสตร์ตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนวิทยาศาสตร์ คลิกที่นี่เลย

    เรียนคณิตศาสตร์ที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์คณิตศาสตร์ใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนคณิตศาสตร์ ต้องการครูสอนคณิตที่บ้าน Tutor Ferry เรียนคณิตศาสตร์ที่บ้าน หาครูสอนคณิตตามบ้าน ต้องการเรียนคณิตตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ คลิกที่นี่เลย

    เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ภาษาอังกฤษใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนภาษาอังกฤษ Tutor Ferry เรียนภาษาอังกฤษที่บ้าน หาครูสอนภาษาอังกฤษตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่เลย

    เรียนภาษาจีนที่ไหนดี?

    กำลังหาติวเตอร์ภาษาจีนใกล้ๆบ้าน ต้องการหาครูสอนภาษาจีน Tutor Ferry เรียนภาษาจีนที่บ้าน หาครูสอนภาษาจีนตามบ้าน ต้องการเรียนภาษาจีนตัวต่อตัว

    Tutor Ferry รับสอนภาษาจีน คลิกที่นี่เลย